EP Waterproofing System TM ระบบกันซึมแบบอีพี ไม่ใช่สารเคลือบผิวกันซึม (Surface Coating) แต่เป็นเทคโนโลยีใหม่ด้านสารประกอบไบโอโมดิฟายด์ เคมิคอล ซึ่งมีความสามารถในการแทรกซึมเข้าไปในเนื้อคอนกรีตเพื่อไปทำปฏิกิริยากับอัลคาไลน์ อิสระ (Free Alkali) และอนุภาคหินปูนในเนื้อคอนกรีตเพื่อสร้างชั้นหนาแน่นในเนื้อคอนกรีต ทำให้คอนกรีตกันซึม (Waterproof) ได้ในที่สุด รวมทั้งยังสามารถบำรุงรักษาคอนกรีตให้คงทนถาวรมากขึ้นลดปัญหาการแตกร้าวในคอนกรีต โดย EP Waterproofing System TM ผ่านระบบมาตรฐานต่างๆ ดังนี้ ASTM 14 มาตรฐาน, NCHRP 2 มาตรฐาน , AS 1มาตรฐาน
EP Waterproofing System TM มีลักษณะที่แตกต่างไปจากผลิตภัณฑ์อื่น ดังนี้
• ไม่ใช่สารเคลือบผิวคอนกรีต(Surface Coating)
• สามารถแทรกซึมเข้าไปในเนื้อคอนกรีตได้ถึง 10 ซม(ASTM 123 D)
• ไม่มีส่วนผสมของสารระเหย (Solvent)สามารถใช้งานกันซึมในพื้นผิวคอนกรีต ,ปูนฉาบ,มอร์ตาร์ , อิฐ และหินธรรมชาติโดยส่วนใหญ่
• ทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีมีผลให้อนุภาคในเนื้อคอนกรีตจับรวมตัวกันเป็นชิ้นหนาแน่น (Single Solid Mass) อยู่ภายในคอนกรีต
• เพิ่มค่าความเค้นแรงดึง (Tensile Strength) และป้องกันการแตกลายงา ป้องกันฝุ่นคอนกรีต (Concrete Dusting) และเพิ่มค่าความต้านานการสึกหรอ (Wearing Quality)
• เพิ่มการยึดจับกันระหว่างคอนกรีตเก่าและคอนกรีตใหม่(ในกรณีมีการเทคอนกรีตท็อปปิ้ง)
• ทำให้อนุภาคหินปูนและอัลคาไลน์มีสภาพเป็นกลางและขจัดความชื้นในเนื้อคอนกรีตทำให้ยับยั้งการเกิดปฏิกิริยา Saponication โดยการป้องกันสารหินปูนและอัลคาไลน์ไปทำปฏิกิริยากับน้ำมันในสีทา มีผลทำให้สีที่ทามีความคงทนขึ้น 2-5 เท่า
• สามารถกันซึมได้อย่างถาวรในบริเวณกำแพงและพื้น, จากภายในหรือภายนอก, พื้นเปียกหรือพื้นแห้ง, พื้นใหม่หรือพื้นเก่า
• สามารถใช้ได้กับงานคอนกรีตสดหลังเท (Green Concrete) โดยทำให้คอนกรีตใหม่เซ็ตตัวได้ดีขึ้นและสม่ำเสมอ รวมถึงสามารถป้องกันคอนกรีตจากการแตกลายงา
• ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันและสารระเหย จึงไม่เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจของมนุษย์ เป็นสารอนินทรีย์ ซึ่งไม่ติดไฟ ไม่มีกลิ่นฉุน ไม่ก่อให้ การระคายเคืองกับผิวหนังและปอด
• สามารถใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องมีการผสมเพิ่มเติม ใช้งานง่ายและแห้งเร็ว ประหยัดเวลา ไม่กระทบต่อการทำงานในส่วนอื่นๆ
คุณประโยชน์
• ประสิทธิภาพในการกันซึมได้อย่างถาวร(Permanent Waterproofing) โดยไม่จำเป็นต้องใช้ซ้ำหรือบำรุงรักษาอีกในภายหลัง
• นอกจากใช้สำหรับการกันซึมแล้ว ยังสามารถใช้ EP Waterproofing System TM ในการป้องกันและรักษาคุณภาพของคอนกรีตและอิฐได้อีกด้วย เพื่อลดปัญหาการเกิดรอยร้าวและการเสื่อมสภาพของคอนกรีต
• ใช้ได้กับงานคอนกรีตสดหลังเท (Green Concrete) โดยทำให้คอนกรีตใหม่เซ็ตตัวได้ดีขึ้นและสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันคอนกรีตจากการแตกลายงา
• ป้องกันการเกิดปฏิกิริยา Saponication ของสีที่ทาบนพื้นผิวคอนกรีตไม่ทำให้เกิดการพองตัวของสีในอนาคต
• ใช้งานง่ายประหยัดเวลา เพราะหลังจากการสเปรย์ลงบนพื้นผิว EP Waterproofing System TM จะแห้งภายใน 1 ชั่วโมงและใช้เวลาอีก ประมาณ 12-14 ชั่วโมง เพื่อการทำปฏิกิริยากับคอนกรีต การทำปฏิกิริยานั้นจะเสร็จสมบูรณ์ ภายในเวลา 6-7 วัน
• EP Waterproofing System TM สามารถใช้งานได้กับทุกพื้นผิว เช่น พื้นหรือกำแพงคอนกรีต , กระเบื้องดินเผา , อิฐ และหินธรรมชาติโดยส่วนใหญ่
สำหรับคอนกรีตเทใหม่ ประโยชน์จากากรใช้ EP Waterproofing System TM
• การเซ็ตตัวอย่างสม่ำเสมอของคอนกรีตและอุดรอยร้าวเล็กๆที่มีในคอนกรีต
• สามารถกันซึมได้อย่างทั่วถึงในคอนกรีตและป้องกันการเกิดรอยร้าวเมื่อคอนกรีตเกิดการหดตัว
• รักษาความเป็นด่าง(Alkalinity) ในคอนกรีตเพื่อป้องกันเหล็กเสริมแรงไม่ให้เกิดสนิม
• เพิ่มค่าความเค้น แรงดึง (Tensile Strength)
• เพิ่มแรงยึดเกาะระหว่างผิวคอนกรีตและสารทาเคลือบผิวคอนกรีต เช่น สีทาพื้นหรือผนัง
วิธีการใช้งานสำหรับคอนกรีตเทใหม่
• ให้ใช้งานทันทีหลังจากคอนกรีตเริ่มเซ็ตตัวหรือหลังจากถอดไม้แบบออก
• สเปรย์ EP Waterproofing System TM ด้วยเครื่องสเปรย์แรงดันต่ำด้วยแรงดันไม่เกิน 20 Psi
• ให้สเปรย์อย่างทั่วถึง ด้วยอัตรา 1 ลิตร ต่อพื้นที่ 5-7 ตารางเมตร ทิ้งไว้จนแห้ง
• หลังจากแห้งแล้วสามารถเปิดใช้งานได้เท่าที่จำเป็น แต่ควรทิ้งไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อให้เกิดการทำปฏิกิริยากับคอนกรีตอย่างสมบูรณ์
หมายเหตุ ไม่จำเป็นต้องใช้กรดกัดผิวคอนกรีต(Acid Etch) ในการเตรียม
สำหรับพื้นฉาบในแนวดิ่ง ประโยชน์จากากรใช้ EP Waterproofing System TM
วิธีการใช้งาน
• ทำความสะอาดพื้นผิวด้วยน้ำเพื่อชำระล้างคราบฝุ่นออก
• สเปรย์ EP Waterproofing System TM ด้วยเครื่องสเปรย์แรงดันต่ำด้วยแรงดันไม่เกิน 20 Psi
• ให้สเปรย์อย่างทั่วถึง ด้วยอัตรา 1 ลิตร ต่อพื้นที่ 5-7 ตารางเมตร โดยการสเปรย์จากข้างบนลงมาข้างล่างทิ้งไว้ประมาณ 12-24 ชั่วโมง ให้เซ็ตตัวแล้วทำซ้ำอีกครั้ง
• ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 2 อาทิตย์เพื่อการเซ็ตตัวที่สมบูรณ์